ประเด็นร้อน

ศาล รธน.รับคำร้อง กกต.ปม4รมต.รบ.บิ๊กตู่ ถือครองหุ้นสัมปทานรัฐ-สั่งแจงใน 30 วัน

โดย ACT โพสเมื่อ Mar 28,2019

- - ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวอิศรา - -

 

ศาล รธน.รับคำร้องวินิจฉัย กกต. ปม 4 รัฐมนตรี ‘หม่อมปนัดดา-สุวิทย์-ไพรินทร์-ธีระเกียรติ’ ถือครองหุ้นสัมปทานรัฐ เข้าข่ายขัดผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ สั่งให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาใน 30 วัน


ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2562 ศาลรัฐธรรมนูญได้รับคำร้อง กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีต รมช.ศึกษาธิการ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม และนายธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) หรือไม่


โดยศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ได้บัญญัติให้ กกต. มีอำนาจส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความสิ้นสุดลงเฉพาะตัวเมื่อรัฐมนตรีกระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 ประกอบมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (2) และวรรคสาม และมาตรา 187 


เมื่อข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏว่ามีผู้ร้องส่งเรื่องมายังศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยดังกล่าว และผู้ร้องได้ยื่นคำร้องประกอบต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จึงมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ และส่งส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้ง 4 ราย ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2562 กกต. มีมติว่า การถือครองหุ้นของรัฐมนตรีทั้ง 4 ราย ได้แก่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีต รมช.ศึกษาธิการ ถือครองหุ้นสัมปทานของรัฐ เข้าข่ายกระทำการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 186 ประกอบมาตรา 184 วรรคหนึ่ง (2) มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) และขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ จึงยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยดังกล่าว (อ่านประกอบ : วัดบรรทัดฐาน!ขุดคำวินิจฉัยปม‘ปนัดดา’ ถือหุ้นสัมปทานรัฐ กกต.ชุดเดิมตีตก-ชุดใหม่ฟัน?)


โดยกรณีนี้เกิดขึ้นจากที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ยื่นร้องเรียน กกต. ให้ตรวจสอบ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ อดีต รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สวมหมวกเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐอีกใบ) ถือครองหุ้นในบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC จำนวน 9 หมื่นหุ้น ซึ่ง GPSC เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่รวมกับบริษัทลูกของ ปตท. ที่เป็นคู่สัญญากับสัมปทานรัฐ


ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีต รมช.ศึกษาธิการ ถูกร้องเรียนว่า ถือครองหุ้นของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. จำนวน 6 พันหุ้นเศษ


นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ ถูกร้องเรียนว่า ถือหุ้นสัมปทานบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG จำนวน 5 พันหุ้น


นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม ถูกร้องเรียนว่า ถือหุ้นบริษัท GPSC จำนวน 5 หมื่นหุ้น ซึ่ง GPSC เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่รวมกับบริษัทลูกของ ปตท. ที่เป็นคู่สัญญากับสัมปทานรัฐ นอกจากนี้ยังถือหุ้นบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC จำนวน 2.4 แสนหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 5 พันหุ้น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด (มหาชน) 6 หมื่นหุ้น บริษัท ไทยออย จำกัด (มหาชน) 4 หมื่นหุ้น บริษัท กัลฟ์ เอนเนอร์จี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) 3 แสนหุ้น บริษัท บ้านปู พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) 1 หมื่นหุ้น บริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) 2.6 หมื่นหุ้น

 

 

 

#ร่วมเป็นพลเมืองตื่นรู้สู้โกง

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw